"Kitty"

"Kitty"
น่ารักอ่ะ

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ตารางสอบปลายภาค วิชา Internet

วันที่ 21 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2555  สอบปลายภาค เวลา 10.00-12.00 น.

วิธีการ search engine


วิธีการ search engine
เข้าไปที่เว็บ search engine ไหนก็ได้ที่คุณต้องการ submit เช่น yahoo.com ,msn.com ,dmoz.org
- เข้าไปใน directory ที่มีความเกี่ยวพันกับเว็บของคุณ เช่นเว็บคุณ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความบันเทิง คุณก็เข้าไปในหมวด entertainment หรือ อื่นๆ
- เข้าไปใน directory ย่อย เรื่อยๆ จนถึงขั้นที่ไม่มี directory ย่อยอีกแล้ว 
-ให้คุณหา ข้อความที่บอกว่า Add url หรือ Submit Url แล้วก็คลิก
-ทำการกรอกข้อมูลให้ครบ แล้วทำตามคำพแนะนำอย่างเคร่งครัด เช่น อย่าพยายาม ทำการส่งข้อมูลหลายครั้ง ไม่งั้น ข้อมูลที่คุณสงไปก็จะไม่มีประโยชน์อะไร หรือ อย่าใส่ title หรื อdescription ยาวกว่าที่เขากำหนดให้
-หลังจากการกรอกข้อมูลเสร็จ ก็เป็นอันว่า คุณได้ ฝากเว็บกับ search engine เรียบร้อยแล้ว รอเวลา อีกประมาณ 2 อาทิตย์ - 1 เดือน เว็บคุณถึงจะได้บันทึกลงในฐานข้อมูล เพราะมีเว็บอีกเป็นเรือน หมื่น-แสน ที่เขาต้อง มารอเหมือนคุณ
*และสุดท้ายที่สำคัญ เหนือสิ่งอื่นใด ในการฝากเว็บ ถ้าหากเว็บคุณ หรือในเว็บเพจแต่ละหน้าของคุณ ไม่มี title tag หรือ meta tag ต่างๆ แล้ว การ ฝากเว็บกับ search engine ก็จะไม่ได้ผลเท่าที่ควร 
ลองไปดูตัวอย่างที่



การดาวโหลดเพลงใน youtube


การดาวโหลดเพลงใน youtube
ค้นหาดาวโหลดเพลง หรือ mv หรืองานต่างๆๆ ที่กี่ยวกับภาพยนต์ เจอแล้วแท้ๆๆ น่าเสียดายครับ มันเป็นของ Youtube ซะงั้น เอ่มันพอจะโหลดได้ไหมน่า ลองมาดูเลยครับบ่นมาเยอะแล้วแหละ
1.. เปิดหน้าเว็บของไฟล์ที่เราต้องการ แล้วก๊อปปี้ url ของไฟล์นั้นจากกล่องที่มันอยู่ทางขวามือ อินๆๆ copy ให้ถูกนะครับ    เช่น  http://www.youtube.com/watch?v=y9jXtK_n_lI
2. เปิดเว็บนี้ http://www.keepvid.com
3. วาง url ที่ก๊อปปี้มาเมื่อกี้ใส่ในช่อง(สีส้มในตัวอย่าง แล้วก็เปลี่ยนช่องสีม่วงในตัวอย่างให้เป็น Youtube) กดปุ่ม Download ดูตามภาพ

ประโยชน์ที่ได้รับจาก Search Engine


ประโยชน์ที่ได้รับจาก Search Engine
1. ค้นหาเว็บที่ต้องการได้สะดวก รวดเร็ว
2. สามารถค้นหาแบบเจาะลึกได้ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, ข่าว, MP3 และอื่นๆ อีกมากมาย
3. สามารถค้นหาจากเว็บไซต์เฉพาะทาง ที่มีการจัดทำไว้ เช่น download.com เว็บไซต์
์เกี่ยวกับข้อมูล และซอร์ฟแวร์ เป็นต้น 
4. มีความหลากหลายในการค้นหาข้อมูล
5. รองรับการค้นหา ภาษาไทย
ในโลกยุคอินเทอร์เน็ทในปัจจุบันนี้มีข้อมูลมากมายมหาศาล การที่จะค้นหาข้อมูลจำนวนมากมาย อย่างนี้เราไม่อาจจะคลิก เพื่อค้นหาข้อมูลพบได้ง่ายๆ จำเป็นจะต้องอาศัยการค้นหาข้อมูลด้วยเครื่องมือ ค้นหา ที่เรียกว่า Search Engine เข้ามาช่วยเพื่อ ความสะดวกและรวดเร็ว เว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหาข้อมูลมีมากมายหลายที่ทั้งของคนไทย
และต่างประเทศ ความหมาย/ประเภท ของ Search Engine การค้นหาข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าเราเปิดไปทีละหน้าจออาจจะต้องเสีย เวลาในการค้นหา และอาจหาข้อมูลที่เราต้องการไม่พบ 
การที่เราจะค้นหาข้อมูลให้พบอย่างรวดเร็วจะต้องใช้เว็บไซต์สำหรับการ ค้นหาข้อมูลที่เรียกว่า Search Engine Site ซึ่งจะทำหน้าที่รวบรวมรายชื่อเว็บไซต์ต่างๆ เอาไว้ โดยจัดแยกเป็นหมวดหมู่ ผู้ใช้ งานเพียงแต่ทราบหัวข้อที่ต้องการค้นหาแล้วป้อน คำหรือข้อความของหัวข้อนั้นๆ ลงไปในช่องที่ กำหนด Search Engine แต่ละ แห่งมีวิธีการและการจัดเก็บฐานข้อมูลที่แตกต่างกันไปตามประเภท ของ Search Engineที่แต่ละเว็บไซต์นำมาใช้เก็บรวบรวม ข้อมูลดังนั้น การที่จะเข้าไปหาข้อมูลหรือเว็บไซต์ โดยวิธีการ Search นั้น อย่างน้อยจะต้องทราบว่า เว็บไซต์ที่เข้าไปใช้บริการ ใช้ วิธีการหรือ ประเภทของ Search Engine
 อะไร เนื่องจากแต่ละประเภทมีความละเอียดในการจัดเก็บข้อมูลต่างกันไป การเลือกใช้เครื่องมือในการค้นหาจะต้องเข้าใจว่า ข้อมูลที่ต้องการค้นหานั้นมีลักษณะอย่างไร มีขอบข่ายกว้างขวาง หรือแคบขนาดไหน แล้ว จึงเลือกใช้เว็บไซต์ค้นหาที่ให้บริการตรงกับ
ความต้องการของเรา

วิธี Download เพลงจาก Internet


วิธี Download เพลงจาก Internet
อันนี้เป็นวิธี save ไฟล์เพลงจากเว็บไซท์ต่างๆเก็บเอาไว้ฟังนะครับ อันดับแรกต้องดุก่อนว่าเว็บนั้นวิธีการทำงานยังไงนะครับ โดยสังเกตุได้จากตัว player ที่ใช้ในการฟังเพลงนะครับ แต่อาจใช้ได้กับบางเว็บเท่านั้นนะครับ อย่างไรก็ลองเอาไปใช้ดูละกันนะครับ
1. ถ้าเป็น windows media player ก็จะเป็นไฟล์นามสกุล wma โดยส่วนใหญ่
·         ให้เปิดเพลงนั้นฟังจากนั้นคลิกที่ address bar แล้วพิมพ์ชื่อ path เว็บที่เราไปฟังเพลง มาเมื่อสักครู่ ถ้าง่ายๆก็จะขึ้นโชว์ path ที่อยู่ของ file เพลงให้เห็นจากนั้นจึงทำการคลิกที่ address นั้น เราก็จะสามารถ save file เพลงเก็บไว้ฟังได้ปกติ อย่างเช่นถ้าเราฟังเพลงที่ http//www.elec2rak.com/xxxxxxx/xxxxxx ซึ่ง path นี้จะเป็นหน้า player ให้คลิกที่ address bar แล้วค่อยๆลบ path ยอนกลับไป เราจะเห็น path ที่อยู่ของ file เพลงนะครับ
·         แต่ถ้า path ไม่ show file เพลง ให้พิมพ์ address ที่อยู่ของเว็บเพจ player จากนั้นจึงคลิก menu "view" แล้วเลือก source เพื่อเปิดดูsource code ของ webpage เพื่อดูตำแหน่ง ที่ window media object เรียกไปยัง file เพลงที่อยู่ ถ้าโชคดีไม่ติด script ก็จะเจอนะครับ save ได้เลย
2. ถ้าเป็น flash player ส่วนใหญ่จะเป็นไฟล์ mp3 นะครับ ใช้วิธีเดียวกันกับวิธีแรกนะแหละครับ แต่ส่วนใหญ่จะติด script
3.อันนี้สุดท้ายที่เจอคือ แบบ streaming ครับ ให้หา path ที่อยู่ ของ streaming file ตามวิธีที่ กล่าวมานะครับ โดยส่วนใหญ่จะขึ้นต้นด้วย mms:// จากนั้นก็ตามด้วย path อะไรก็ว่ากันไป แต่ถ้าจบลงด้วย .wma หรือ wmv ก็เสร็จครับ
·         ให้ไปทำการ setting output ของโปรแกรมที่เราใช้ฟังเพลงใหม่ อย่างเช่น winamp ให้เลือกเป็น Nullsoft Disk Writer Plug-in
·         จากนั้น set ค่าการ encoder ของ output file
·         แล้วจึงเปิด winamp ด้วย path mms ที่ได้มานะครับ เท่านี้เราก็สามารถ Download file เพลงเก็บเอาไว้ฟังได้แล้วครับ

FTP (File Transfer Protocal - บริการโอนย้ายข้อมูล)


FTP (File Transfer Protocal - บริการโอนย้ายข้อมูล) 
บริการนี้ สามารถใช้ download แฟ้มผ่าน browser ได้เพราะการ download คือ การคัดลอกโปรแกรมจาก server มาไว้ในเครื่องของตน แต่ถ้าจะ upload แฟ้ม ซึ่งหมายถึง การส่งแฟ้มจากเครื่องของตน เข้าไปเก็บใน server เช่นการปรับปรุง homepage ให้ทันสมัย ซึ่ง homepage ของตนถูกจัดเก็บใน server ที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่ง จะต้องใช้โปรแกรมอื่น เพื่อส่งแฟ้มเข้าไปใน server เช่นโปรแกรม cuteftp หรือ wsftp หรือ ftp ของ windows
การ download นั้นไม่ยาก หากผู้ให้บริการยอมให้ใครก็ได้เข้าไป download แฟ้มใน server ของตน และผู้ใช้บริการรู้ว่าแฟ้มที่ต้องการนั้นอยู่ที่ใด แต่การ upload มักไม่ง่าย เพราะต้องใช้โปรแกรมเป็น และมีความเป็นเจ้าของในเนื้อที่ที่จะกระทำ รวมทั้งมี userid และ password เพื่อแสดงสิทธิในการเข้าใช้บริการ การศึกษาการส่งแฟ้มเข้าไปใน server อาจต้องหา บทเรียน ftp มาอ่านเพื่อศึกษาวิธีการส่ง หรือหาอ่านได้จาก เว็บที่ให้บริการ upload แฟ้ม ซึ่งมักเขียนไว้ละเอียดดีอยู่แล้ว









http://www.krujongrak.com/internet/internet.html

IRC : Internet Relay Chat


IRC : Internet Relay Chat 
บริการนี้คนไทยทุกวัย ชอบกันมาก โดยเฉพาะโปรแกรม PIRC เพราะทำให้สามารถคุยกับใครก็ได้ที่ใช้ โปรแกรม PIRC การคุยกันจะใช้ผ่านแป้นพิมพ์เป็นสำคัญ โดยไม่ต้องเห็นหน้า หรือรับผิดชอบต่อสิ่ง ที่พิมพ์ออกไป อย่างจริงจัง เพราะไม่มีการควบคุมจากศูนย์ที่ชัดเจน ทำให้ทุกคนมีอิสระที่จะคิดจะส่ง ข้อมูลออกไป ได้ทุกชาติ ทุกภาษา
ใน IRC ใด ๆ มักจะมีการแบ่งเป็นห้อง ๆ โดยมีชื่อห้องบอกว่า ในห้องนั้นจะคุยกันเรื่องอะไร เช่น "วิธีแก้เหงา" หากใครต้องการคุยถึงวิธีแก้เหงา เข้าไปในห้องนั้น หรือหลาย ๆ ห้องได้ และแสดงความเห็น อะไรออกไปก็ได้ และยังสามารถเลือกคุยกับใครเป็นการส่วนตัว หรือจะคุยให้ทุกคน ที่เปิดหัวข้อนี้ รับทราบก็ได้ เมื่อคุยกันถูกคอก็สามารถ ที่จะนัดพบกันตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อนสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หรือจะนัดคุยกันในคอมพิวเตอร์ ในครั้งต่อไป ในห้องที่กำหนดขึ้นก็ได้ จึงทำให้ทุกเพศทุกวัยชื่นชอบ ที่จะใช้บริการนี้อย่างมาก
บริการนี้ผู้ใช้ต้องไป download โปรแกรมาติดตั้ง และเป็น Shareware หากผู้ใช้พอใจ สามารถที่จะ ลงทะเบียนเพื่อจ่ายเงิน $20 ได้ 





http://www.krujongrak.com/internet/internet.html

telnet


telnet 
เครื่องมือพื้นฐาน ที่ใช้สำหรับติดต่อกับเครื่อง Server ที่เป็น UNIX หรือ LINUX เพื่อใช้เข้าไปควบคุม การทำงานของเครื่อง หรือใช้อ่าน mail หรือใช้ปรับปรุง homepage หรือใช้เรียกโปรแกรมประมวลผลใด ๆ หรือใช้พัฒนาโปรแกรมและใช้งานในเครื่องนั้น เป็นต้น เพราะระบบ UNIX หรือ LINUX จะยอมให้ผู้ใช้สร้าง application ด้วย Compiler ภาษาต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ และเชื่อมต่อกับ Internet ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ Internet เริ่มต้นมาจากระบบ UNIX นี้เอง
ประโยชน์อย่างหนึ่งที่ผู้ใช้โปรแกรม Telnet มักคุ้นเคย คือการใช้โปรแกรม PINE ซึ่งมีอยู่ใน Telnet สำหรับรับ-ส่ง mail และมีผู้ใช้อีกมากที่ไม่รู้ตัว ว่าตนเองกำลังใช้งาน UNIX อยู่ ทั้ง ๆ ที่ใช้ PINE ติดต่องานอยู่ทุกวัน เดิมที่ระบบ UNIX ไม่มีโปรแกรม PINE แต่มีนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย WASHINGTON University เพราะใช้ง่ายกว่าการใช้คำสั่ง mail ในการรับ-ส่งมาก
แต่ผู้ใช้ที่ใช้ E-Mail กับเครื่อง UNIX หรือ LINUX ซึ่งใช้ตามมาตรฐาน IMAP มักเป็นกลุ่มนักศึกษา ในมหาวิทยาลัย ที่มหาวิทยาลัยได้ให้บริการ E-Mail ซึ่งมีข้อจำกัดบางประการ และหลายมหาวิทยาลัย เช่นกันที่ทำฐานข้อมูล Mail ใน UNIX และให้บริการ Mail ผ่าน browser ได้ ซึ่งเป็นหลักการที่ผู้ให้บริการ mail ฟรีหลายแห่งใช้กันอยู่
สำหรับโปรแกรม Telnet ผู้ต้องการใช้บริการ ไม่จำเป็นต้องไป download เพราะเครื่องที่ทำการติดตั้ง TCP/IP จะติดตั้งโปรแกรม telnet.exe ไว้ในห้อง c:\windows เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ได้อยู่แล้ว แต่ ปัญหาหนักอยู่ที่วิธีการใช้ เพราะระบบ UNIX เป็นการทำงานใน Text mode เป็นหลัก การจะใช้คำสั่งต่าง ๆ ผู้ใช้จะต้องเรียนรู้มาก่อน จึงจะใช้งานได้ในระดับที่พึ่งตนเองได้ มิเช่นนั้นก็จะเหมือน คนตาบอดเดินอยู่ กลางถนน หากใช้คำสั่งไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดปัญหาทั้งกับตนเอง และระบบได้ภาพ mailtel.gif



http://www.krujongrak.com/internet/internet.html

ประวัติความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต


ประวัติความเป็นมา
- อินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นโครงการของ ARPAnet(Advanced Research Projects Agency Network) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สังกัด กระทรวงกลาโหม ของสหรัฐ (U.S.Department of Defense - DoD) ถูกก่อตั้ง เมื่อประมาณ ปีค.ศ.1960(พ.ศ.2503) และได้ถูกพัฒนาเรื่อยมา
- ค.ศ.1969(พ.ศ.2512) ARPA ได้รับทุนสนันสนุน จากหลายฝ่าย ซึ่งหนึ่งในผู้สนับสนุนก็คือ Edward Kenedy และเปลี่ยนชื่อจาก ARPA เป็น DARPA(Defense Advanced Research Projects Agency) พร้อมเปลี่ยนแปลงนโยบายบางอย่าง
และในปีค.ศ.1969(พ.ศ.2512)นี้เองที่ได้ทดลองการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์คนละชนิด จาก 4 แห่ง เข้าหากันเป็นครั้งแรก คือ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สถาบันวิจัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย และมหาวิทยาลัยยูทาห์ เครือข่ายทดลองประสบความสำเร็จอย่างมาก ดังนั้นในปีค.ศ.1975(พ.ศ.2518) จึงได้เปลี่ยนจากเครือข่ายทดลอง เป็นเครือข่ายที่ใช้งานจริง ซึ่ง DARPA ได้โอนหน้าที่รับผิดชอบ โดยตรง ให้แก่ หน่วยการสื่อสารของกองทัพสหรัฐ (Defense Communications Agency - ปัจจุบันคือ Defense Informations Systems Agency) แต่ในปัจจุบัน Internet มีคณะทำงานที่รับผิดชอบบริหาร เครือข่ายโดยรวม เช่น ISOC (Internet Society) ดูแลวัตถุประสงค์หลัก, IAB (Internet Architecture Board) พิจารณาอนุมัติมาตรฐานใหม่ในInternet, IETF (Internet Engineering Task Force) พัฒนามาตรฐานที่ใช้กับ Internet ซึ่งเป็นการทำงานโดยอาสาสมัคร ทั้งสิ้น
- ค.ศ.1983(พ.ศ.2526) DARPA ตัดสินใจนำ TCP/IP (Transmission Control Protocal/Internet Protocal) มาใช้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในระบบ ทำให้เป็นมาตรฐานของวิธีการติดต่อ ในระบบเครือข่าย Internet จนกระทั่งปัจจุบัน จึงสังเกตุได้ว่า ในเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่จะต่อ internet ได้จะต้องเพิ่ม TCP/IP ลงไปเสมอ เพราะ TCP/IP คือข้อกำหนดที่ทำให้คอมพิวเตอร์ทั่วโลก ทุก platform คุยกันรู้เรื่อง และสื่อสารกันได้อย่างถูกต้อง
- การกำหนดชื่อโดเมน (Domain Name System) มีขึ้นเมื่อ ค.ศ.1986(พ.ศ.2529) เพื่อสร้างฐานข้อมูล แบบกระจาย (Distribution database) อยู่ในแต่ละเครือข่าย และให้ ISP(Internet Service Provider) ช่วยจัดทำฐานข้อมูลของตนเอง จึงไม่จำเป็นต้องมีฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ เหมือนแต่ก่อน เช่น การเรียกเว็บ www.yonok.ac.th จะไปที่ตรวจสอบว่ามีชื่อนี้ หรือไม่ ที่ www.thnic.co.th ซึ่งมีฐานข้อมูล ของเว็บที่ลงท้ายด้วย th ทั้งหมด เป็นต้น
- DARPA ได้ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบ internet เรื่อยมาจนถึง ค.ศ.1980(พ.ศ.2533) และให้ มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Science Foundation - NSF) เข้ามาดูแลแทนร่วม กับอีกหลายหน่วยงาน
- ในความเป็นจริง ไม่มีใครเป็นเจ้าของ internet และไม่มีใครมีสิทธิขาดแต่เพียงผู้เดียว ในการกำหนดมาตรฐานใหม่ต่าง ๆ ผู้ติดสินว่าสิ่งไหนดี มาตรฐานไหนจะได้รับการยอมรับ คือ ผู้ใช้ ที่กระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก ที่ได้ทดลองใช้มาตรฐานเหล่านั้น และจะใช้ต่อไปหรือไม่เท่านั้น ส่วนมาตรฐานเดิมที่เป็นพื้นฐานของระบบ เช่น TCP/IP หรือ Domain name ก็จะต้องยึดตามนั้นต่อไป เพราะ Internet เป็นระบบกระจายฐานข้อมูล การจะเปลี่ยนแปลงระบบพื้นฐาน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
- ในปัจจุบัน เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ไอที (IT) กำลังได้รับ ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology)จะเป็นตัวที่ทำให้ เกิดความรู้ วิธีการประมวลผล การจัดเก็บรวบรวมข้อมูล การเรียกใช้ข้อมูล ตลอดจนการเรียกใช้ข้อมูล ด้วยวิธีการทางอิเล็คทรอนิคส์ เมื่อเราให้ความสำคัญกับเ ทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) ความจำเป็นที่จะต้องมีเครื่องมือในการใช้งานไอที เครื่องมือนั้นก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ สื่อสารโทรคมนาคม อินเตอร์เน็ตนับว่าเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) หรือไอที เพราะเราสามารถที่จะใช้งาน หาข้อมูลข่าวสาร และเข้าถึงข้อมูล ได้ด้วยเวลาอันรวดเร็ว อินเตอร์เน็ตเปรียบเสมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลเรื่องราวต่างๆ มากมาย ให้เราค้นหา ข่าวสารที่ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลกเราสามารถที่จะทราบได้ทันที จึงนับได้ว่า อินเตอร์เน็ตนั้นเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) ทั้งในระดับองค์กรและในระดับบุคคล  


http://www.krujongrak.com/internet/internet.html